วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

>>..Landslide Potential Map By GIS


หัวข้อนี้ผู้เขียนอยากนำเสนอปัญหาพิเศษของตนเองสมัยเรียน ป. ตรี คะ่ 
เผื่อใครสนใจงานทางนี้ ศึกษาคร่าว ๆ ได้เลยค่ะ

หัวข้อที่ผู้เขียนศึกษาจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินถล่มในอำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในการวิเคราะห์จัดมำแผนที่

Landslide Potential Map at  Lomkao District, Phetchabun  Province  using 
Geographic Information System

Case study ของจังหวัดที่เคยเกิดแผ่นดินถล่ม ที่ใครหลายคนยังไม่ลืม
 บ้านน้ำก้อ อ.หล่มสัก

 บ้านน้ำลี จ.อุตรดิตถ์

1.ความหมายของระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ GIS
              ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ หรือ Geographic Information System : GIS คือกระบวนการทำงานเกี่ยวกับข้อมูลในเชิงพื้นที่ด้วย ระบบคอมพิวเตอร์ ที่ใช้กำหนดข้อมูลและสารสนเทศ ที่มีความสัมพันธ์กับตำแหน่งในเชิงพื้นที่ หรือจะกล่าวอย่างง่ายๆก็ได้ว่าเป็นการจัดการฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ เช่น ที่อยู่ บ้านเลขที่ สัมพันธ์กับตำแหน่งในแผนที่ ตำแหน่ง เส้นรุ้ง เส้นแวง ข้อมูลและแผนที่ใน GIS เป็นระบบข้อมูลสารสนเทศที่อยู่ในรูปของ ตารางข้อมูล และ ฐานข้อมูลที่มีส่วนสัมพันธ์กับข้อมูลเชิงพื้นที่ (Spatial Data) ซึ่งรูปแบบและความสัมพันธ์ของข้อมูลเชิงพื้นที่ทั้งหลาย จะสามารถนำมาวิเคราะห์ด้วย GIS และทำให้ สื่อความหมายในเรื่องการเปลี่ยนแปลงที่สัมพันธ์กับช่วงเวลาได้ ใช้เป็นชุดของเครื่องมือที่มีความสามารถในการเก็บรวบรวมข้อมูล รักษาข้อมูลและการค้นคืนข้อมูล เพื่อจัดเตรียมและปรับแต่งข้อมูล เพื่อใช้ในการวิเคราะห์และการแสดงผลข้อมูลเชิงพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องตามวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น การแพร่ขยายของโรคระบาด การเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน การบุกรุกทำลาย การเปลี่ยนแปลงของการใช้พื้นที่ ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้ เมื่อปรากฏบนแผนที่ทำให้สามารถแปลและสื่อความหมาย นำไปใช้งานได้ง่าย

2.วัตถุประสงค์
              Specify Landslide Hazard Area. By  study  about many factor to determine, that  apply to  Landslide Hazard Potential Map

3.พื้นที่ศึกษา

 อำเภอหล่มเก่า  จังหวัดเพชรบูรณ์

4.ขั้นตอนการศึกษา
 
5.วิธีการที่ใช้วิเคราะห์
Weighted factor index used for creating Landslide Potential Map
  • Rock Type 
  • Slope
  • Precipitation
  • Land use
  • Elevation
อ้างอิงวิธีการจาก  Department of Natural Resource, Prince of Songkla University
  
                                                  6. วิเคราะห์ได้ผลดังนี้ 
                                                  1. วิเคราะห์ชนิดหิน
  
    

แผนที่ธรณีวิทยา

                                                      2. วิเคราะห์ความชัน 


แผนที่ความชัน

                                                                       
   3. วิเคราะห์ความชัน 


                                                      แผนที่เส้นชั้นน้ำฝน


4. วิเคราะห์การใช้ประโยชน์ที่ดิน
                                             
                                                แผนที่การใช้ประโยชน์ที่ดิน


5. วิเคราะห์ความสูง


  แผนที่แสดงความสูง


7. ผลการศึกษาและวิเคราะห์

  
จะได้แผนที่พื้นที่ที่มีโอกาสเกิดแผ่นดินถล่มทั้ง 5 ระดับ ต่ำ ต่ำมาก ปานกลาง สูง และสูงมาก ดังรูปนี้

(ผู้เขียนหวังว่าคงมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อใครหลาย ๆ คนค่ะที่อยากศึกษางานด้านนี้)

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

>>..CSS3 Tutorial

CSS--Cascading Style sheet


Credit : W3Shool สามารถเรียนรู้ได้ 
              Web Knowledge

            CSS ใช้ในการควบคุมรูปแบบ (style) และรูปแบบ (layout) ของเว็บเพจ CSS3 เป็นมาตรฐานล่าสุดสำหรับ CSS

             # เริ่มรู้จัก CSS

 CSS (Cascading Style Sheet) จัดเป็นภาษาที่ใช้เป็นส่วนของการจัดรูปแบบการแสดงผลเอกสาร HTML โดยที่ CSS กำหนดกฏเกณฑ์ในการระบุรูปแบบ (หรือ "Style") ของเนื้อหาในเอกสาร อันได้แก่ สีของข้อความ สีพื้นหลัง ประเภทตัวอักษร และการจัดวางข้อความ ซึ่งการกำหนดรูปแบบ หรือ Style นี้ใช้หลักการของการแยกเนื้อหาเอกสาร HTML ออก จากคำสั่งที่ใช้ในการจัดรูปแบบการแสดงผล กำหนดให้รูปแบบของการแสดงผลเอกสาร ไม่ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของเอกสาร เพื่อให้ง่ายต่อการจัดรูปแบบการแสดงผลลัพธ์ของเอกสาร HTML โดยเฉพาะในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาเอกสารบ่อยครั้ง หรือต้องการควบคุมให้รูปแบบการแสดงผลเอกสาร HTML มีลักษณะของความสม่ำเสมอทั่วกันทุกหน้าเอกสารภายในเว็บไซต์เดียวกัน โดยกฏเกณฑ์ในการกำหนดรูปแบบ (Style) เอกสาร HTML ถูกเพิ่มเข้ามาครั้งแรกใน HTML 4.0  เมื่อปีพ.ศ. 2539 ในรูปแบบของ CSS level 1 Recommendations ที่กำหนดโดย องค์กร World Wide Web Consortium หรือ W3C
 
            # การสร้างรูปแบบ (Style) การแสดงผลเอกสาร HTML โดยใช้ CSS
            รูปแบบทั่วไปของการกำหนดรูปแบบ (Style) ด้วย CSS 
รูปแบบทั่วไปของการจัดรูปแบบการแสดงผลเอกสาร HTML ด้วย CSS ประกอบด้วย ส่วนประกอบ 3 ส่วน ได้แก่  ตัวเลือก (Selector), คุณลักษณะ  (Property) และ ค่าคุณลักษณะ (value)  สามารถแสดงรูปแบบทั่วไปได้ดังนี้
 selector { property: value } 
ส่วนของ Selector  อาจเป็นแท็ก HTML ที่ต้องการกำหนดรูปแบบ  หรือชื่อคลาสที่กำหนดขึ้น ให้แท็กเรียกใช้เพิ่มเติมเป็นรูปแบบย่อย

ในส่วนของ Property จะมีชื่อของ Property  ซึ่งอาจเป็น แอ็ททริบิวต์ของแท็กที่ต้องการกำหนด ตามด้วยเครื่องหมาย “:” (Colon) และค่า (value) ของคุณลักษณะ  ซึ่ง Property เครื่องหมาย “:” และ Value นั้น ทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยเครื่องหมาย { และ ดังตัวอย่างต่อไปนี้เป็นการกำหนด Style ของแท็ก <body> ที่กำหนดให้มีสี (Color) เป็นสีดำ (black)
  body { color: black  } 

ค่าคุณลักษณะหรือ Value ที่กำหนดให้กับ Property ใดๆ อาจเป็นค่าที่มีช่องว่างแทรกอยู่ระหว่างคำ กรณี Value มีช่องว่างระหว่างคำ ให้ใส่เครื่องหมาย “ ” ล้อมรอบ ดังตัวอย่างต่อไปนี้เป็นการกำหนด Style ของแท็ก <p> ที่ให้มีรูปแบบตัวอักษร (font-family) เป็น “sans serif”
  p { font-family: "sans serif" }  

หากต้องการกำหนด Property ให้กับ Selector มากกว่า 1 Property ให้แยกแต่ละ Property ออกจากกันด้วยเครื่องหมาย ;  ดังตัวอย่างต่อไปนี้เป็น Style ของแท็ก <p> ที่กำหนดจัดรูปแบบข้อความให้อยู่กึ่งกลาง (Center) และเป็นสีแดง (red)
  p { text-align:center; color:red }   

# การเขียนคำอธิบาย (Comment)
นอกจากนั้น ยังสามารถกำหนดคำอธิบาย (Comment) เอกสาร HTML  เพื่อช่วยอธิบาย ซอสโค้ด (Source Code) ของเอกสาร HTML  โดยโปรแกรมเว็บบราวเซอร์ จะไม่แปลความหมายในส่วนของ Comment  ซึ่งการเขียน Comment ใน CSS ทำได้โดยใช้สัญลักษณ์ /*  และ */ ล้อมรอบข้อความที่เป็น Comment 
    /* This is a comment */

ตัวอย่างการใช้ CSS3

 CSS3 Transforms
 
สามารถทดลองทำด้วยตัวเองได้  Try it yourself

ด้านซ้ายเป็น code ด้านขวา เป็นตัวอย่างแสดงจาก code 

CSS3 Border Image


CSS3 Multiple Columns

CSS3 Fonts

CSS3 Backgrounds


 และตัวอย่างอื่น ๆ อีกมากให้เรียนรู้ ตามหัวข้อที่แสดงด้านล่างนี้ ซึ่งทางผู้เขียนไม่สามารถยกตัวอย่างมาได้ทุกประเภท ต้องลองเล่นกันดูนะค่ะ

 
ทาง web W3School มีหัวข้อให้ศึกษาอีกมาก ลองเข้าไปดูได้นะค่ะ